ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2566 มีวันไหนบ้าง อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจในด้านความหมายของฤกษ์นั้น ๆ เพื่อจะได้เลือกอย่างเหมาะสม ตรงกับความต้องการของตนเอง โดยทั่วไปแล้ว “ฤกษ์” คือ เวลา ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ไทยการทำสิ่งใดก็ตามภายใต้ฤกษ์ที่ดีย่อมส่งผลเชิงบวก เป็นสิริมงคล ซึ่งบูรณะฤกษ์ หรือฤกษ์สำหรับงานมงคลจะแบ่งออกได้ 4 ฤกษ์
มหัทธโณฤกษ์ คือ ฤกษ์ที่เหมาะกับการจัดงานมงคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลงเสาเอก ปลูกสร้างอาคาร เปิดร้าน เปิดธุรกิจ จะช่วยให้เกิดความก้าวหน้า รุ่งเรือง มีเงินทองไหลมาเทมาแบบไม่ขาดมือ
ภูมิปาโลฤกษ์ คือ ฤกษ์ที่เหมาะกับการจัดงานมงคลสำหรับคนที่อยากได้ความมั่นคงทั้งการอยู่อาศัย การทำงาน ทำธุรกิจต่าง ๆ เช่น การปลูกสร้างอาคาร การยกศาลพระภูมิ เปิดตัวสินค้า เปิดธุรกิจ การทำบุญให้กับที่ดิน ที่การเกษตร
เทวีฤกษ์ คือ ฤกษ์ที่เหมาะในการเข้าหาผู้ใหญ่ เข้าหาผู้มีอำนาจบารมี รวมถึงการแต่งงาน หมั้นหมาย เปิดตัวร้านค้า เปิดตัวสินค้าในกลุ่มความหรูหรา ความสวยความงาม ขึ้นบ้านใหม่ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ มีคนรักใคร่ โชคลาภเข้าหา
ราชาฤกษ์ คือ ฤกษ์ที่เหมาะในการทำพระราชพิธี การเมือง หรือถ้าคนทั่วไปก็สามารถใช้ฤกษ์นี้เพื่อขึ้นบ้านใหม่ งานแต่ง งานหมั้น การเข้าหาผู้ใหญ่ เชื่อว่าจะทำให้เกิดบารมีมหาศาล มีอำนาจวาสนาในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ
.
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ เดือนสิงหาคม 2566
วันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566
เวลา 08.29 – 09.24 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 10.14 – 11.04 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 11.59 – 12.49 น. เทวีฤกษ์
เวลา 13.39 – 14.21 น. ราชาฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันพุธ (กลางคืน) และวันเสาร์
วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม 2566
เวลา 08.13 – 09.03 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 09.58 – 10.48 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 11.38 – 12.28 น. เทวีฤกษ์
เวลา 13.18 – 14.08 น. ราชาฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันจันทร์ และวันพุธ (กลางคืน)
วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2566
เวลา 08.19 – 09.14 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 10.04 – 10.54 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 11.44 – 12.34 น. เทวีฤกษ์
เวลา 13.24 – 14.14 น. ราชาฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันพฤหัสบดี และวันศุกร์
วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566
เวลา 07.08 – 07.53 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 08.53 – 09.43 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 10.33 – 11.23 น. เทวีฤกษ์
เวลา 12.13 – 13.03 น. ราชาฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันจันทร์ และวันพุธ (กลางคืน)
วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2566
เวลา 09.35-10.24 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 11.14-12.04 น. เทวีฤกษ์
เวลา 13.14-14.34 น. ราชาฤกษ์
เวลา 15.24-16.19 น. มหัทธโนฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2566
เวลา 06.15 – 07.10 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 08.00 – 08.50 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 09.40 – 10.30 น. เทวีฤกษ์
เวลา 11.20 – 12.10 น. ราชาฤกษ์
เวลา 14.40 – 15.30 น. มหัทธโนฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันจันทร์ และวันอังคาร
วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566
เวลา 06.10-07.05 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 07.55-08.45 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 09.35-10.25 น. เทวีฤกษ์
เวลา 11.15-12.05 น. ราชาฤกษ์
เวลา 15.45-16.39 น. มหัทธโนฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
วันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566
เวลา 06.05 – 07.00 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 07.55 – 08.46 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 09.36 – 10.25 น. เทวีฤกษ์
เวลา 11.15 – 12.05 น. ราชาฤกษ์
เวลา 15.46 – 16.40 น. มหัทธโนฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอาทิตย์ และวันพุธ (กลางวัน)
วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2566
เวลา 05.56 – 06.51 น. มหัทธโนฤกษ์
เวลา 07.41 – 08.31 น. ภูมิปาโลฤกษ์
เวลา 09.21 – 10.11 น. เทวีฤกษ์
เวลา 11.01 – 11.56 น. ราชาฤกษ์
เวลา 15.38 – 16.28 น. มหัทธโนฤกษ์
แต่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันจันทร์ และวันพุธ (กลางคืน)
----------------------------------
ความเชื่อเรื่องฤกษ์มงคล
ความเชื่อเกี่ยวกับฤกษ์มงคลมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฤกษ์ในการกระทำใดๆ หรือในวันสำคัญต่างๆ ก็ตาม เช่น ฤกษ์งานแต่งงาน ฤกษ์วันขึ้นบ้านใหม่ และในปัจจุบันก็มีฤกษ์วันออกรถด้วย ฤกษ์มีความหมายว่าการมองดู การพิจารณาหาวันและเวลาที่เหมาะสมแก่การประกอบพิธีมงคลนั้นๆ โดยจะเรียกว่า “ฤกษ์งามยามดี” ก็ต่อเมื่อทุกอย่างสมบูรณ์ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นวัน เวลา สถานที่ บุคคล และสิ่งของประกอบการทั้งหลาย แต่หากมีอะไรที่ยังขาดจะถือว่าเป็นฤกษ์ไม่ดีนั่นเอง
การหาฤกษ์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ฤกษ์ในทางโลก ฤกษ์ประเภทนี้จะดูจากการที่วันประกอบไปด้วยส่วนดีมากทึ่สุดและส่วนเสียน้อยที่สุด โดยส่วนดี ได้แก่ การเป็นเดช เป็นศรี เป็นมูละ เป็นอุตสาหะ เป็นมนตรี เป็นราชาฤกษ์ เป็นเทวีฤกษ์ เป็นมหัทธโนฤกษ์ เป็นต้น และส่วนเสีย ได้แก่ เป็นอุบาทว์เป็นโลกาวินาศ เป็นกาลกรรณี เป็นอริ เป็นมรณะ เป็นวินาศ เป็นต้น วันไหนที่ส่วนดีมากที่สุดและส่วนเสียน้อยที่สุดก็จะถือเป็นฤกษ์ที่เหมาะกับการประกอบพิธีมงคลนั้นๆ
ฤกษ์ในทางธรรม ฤกษ์ประเภทนี้จะอิงจากคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก คือการยึดการทำความดีเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการประพฤติทำความดีทั้งกายวาจาใจ เมื่อนั้นก็ชีวิตก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรื่องนั่นเอง
ความหมายของฤกษ์
ก่อนที่จะเลือกวันมงคลตามที่ต้องการ เราควรมาดูความหมายของฤกษ์ต่าง ๆ กันก่อน เพื่อจะได้ทำความเข้าใจว่าฤกษ์แต่ละยามส่งผลต่อชีวิตเราอย่างไรบ้าง ดังนี้
ดิถีมหาสิทธิโชค: ความสำเร็จผลอย่างเต็มที่ดีมาก สำหรับงานที่มีโครงการระยะยาว วันให้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เป็นดิถีที่ดีรองลงมา ดิถีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เหมาะแก่การมงคล ดีสำหรับงานสำคัญ โดยเฉพาะโครงการระยะสั้น ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม แต่ที่นิยมถือกันว่าข้างขึ้นดีกว่าข้างแรม
ดิถีอำมฤตโชค: อำนวยให้ได้รับโชคลาภสำเร็จผลตามที่กำหนดไว้การมีอายุยืน วันไม่ตาย เป็นวันทิพย์ เป็นดิถีดีที่สุด ดิถีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ดิถีทิพย์ เหมาะแก่การมงคล ดีสำหรับงานทั่วไปเกี่ยวกับความราบรื่นและสบาย ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม แต่ที่นิยมถือกันว่าข้างขึ้นดีกว่าข้างแรม
ดิถีสิทธิโชค: ความสำเร็จสมปรารถนาดีสำหรับงานสำคัญที่เป็นโครงการระยะสั้น วันให้ความสำเร็จ วันโชคดี วันให้ลาภผล เป็นดิถีที่ดีรองลงมา เหมาะแก่การมงคล ดีสำหรับงานที่เป็นโครงการระยะยาว ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม แต่ที่นิยมถือกันว่าข้างขึ้นดีกว่าข้างแรม
ดิถีชัยโชค: ทำการแข่งขันได้ชนะงานนี้ต้องต่อสู้แข่งขัน วันแห่งชัยชนะ วันทำให้เกิดความภูมิใจ วันได้รับความสำเร็จจากการต่อสู้ เป็นดิถีที่ดีรองลงมา เหมาะแก่การมงคล ดีสำหรับงานที่ต้องต่อสู้แข่งขันหรือรบทัพจับศึก ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม
ดิถีราชาโชค: ให้ผลถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ดีสำหรับงานต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ วันได้รับชัยชนะด้วยบารมี เป็นดิถีที่ดีรองลงมา เหมาะแก่การมงคล ดีสำหรับงานที่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม
.
แชร์เก็บได้เลยค่ะ
Comments