ตั้งรูปบรรพบุรุษ 8 เคล็ดลับตั้งรูปบรรพบุรุษ อย่างไรให้ถูกต้อง ถูกฮวงจุ้ย

ตั้งรูปบรรพบุรุษ 8 เคล็ดลับตั้งรูปบรรพบุรุษ อย่างไรให้ถูกต้อง ถูกฮวงจุ้ย

บ้านใครมีรูปบรรพบุรุษบ้างคะ ? เคยสงสัยหรือไม่ เราตั้งถูกต้องดีแล้วหรือยัง ?

การตั้งรูปบรรพบุรุษ ไม่ใช่อยากวางตรงไหน อยากติดตรงไหนก็ทำ เพราะว่าส่งผลกระทบกับโชคลาภ ความสัมพันธ์ในครอบครัวและความเจริญอีกหลายชั่วโครต การวางรูปบรรพบุรุษตามหลักการที่ถูกต้อง และวางในตำแหน่งที่เหมาะสม สำคัญมากๆ

คนไทย คนจีน จะมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายๆกันคือความกตัญญู เมื่อมีใครล่วงลับไปแล้วมักจะตั้งรูปไว้เป็นที่ระลึก เคารพบูชา เชื่อว่าผู้ที่บูชาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ลูกศิษย์หลายท่านถามอาจารย์เมย์ว่าควรจะไว้ตรงไหนดี ?? คนรุ่นใหม่ หลายๆคนอยากบูชา แต่ไม่รู้จะเอาไว้ตรงไหนดี พาลไม่ทำดีกว่า

ดังนั้นก่อนติด ตั้งรูปบรรพบุรุษ จึงควรศึกษาให้ชัดเจนว่า ที่ใดเหมาะสมต่อการติดรูปบรรพบุรุษภายในบ้านซึ่งจะพูดเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวทางอารมณ์มากๆ โดยเฉพาะรูปคุณพ่อ คุณแม่ หรือคนรักของเรา วันนี้อาจารย์เมย์ ได้รวบรวมเอาความรู้จากครูบาอาจารย์มาฝากพวกเรากันค่ะ

8 เคล็ดลับ ตั้งรูปบรรพบุรุษ ให้ท่านอวยพรส่งเสริมเจริญรุ่งเรือง

1. ไม่ควรนำรูปบรรพบุรุษไว้ในห้องนอน ห้องรับแขก ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วผู้เสียชีวิตเป็นพลังงานหยิน ที่จะส่งผลด้านลบกับเรา ตามหลักจิตวิทยา หากเราดูแล้วเศร้าหมอง คิดถึงแล้วเสียน้ำตา ก็ไม่ควรเอาไว้ในห้องนอนหรือจุดที่เราต้องการพลังงานหยาง เพราะว่าทำให้นอนไม่ค่อยหลับ ความสัมพันธ์ห่างเหิน จมทุกข์ และอาจแยกทางกันได้

2. ฮวงจุ้ยบ้าน สำคัญมาก บ้าน เป็นสถานที่อยู่ของคนเป็น หากไม่จำเป็น เราไม่ควรนำกระดูกของคนตายมาไว้ในบ้าน ควรตั้งรูป หรือป้ายชื่อแทน เพราะเชื่อว่าพลังงานของวิญญาณจะไม่สงบ วนเวียนอยู่บ้านนั้นๆไม่ไปเกิดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทุกข์ทรมาน ควรนำกระดูกหรืออัฐิไปไว้ที่วัด หรือสถานที่ทางธรรมชาติ ทะเล ภูเขา ต้นไม้ เชื่อว่าวิญญาณจะเป็นอิสระ ไปสู่สรวงสวรรค์

3. ตำแหน่งที่ตั้ง ตำแหน่งที่ไว้ ควรเป็นตำแหน่งที่ดี ไม่ควรให้รูปท่านหันหน้า ไปทางห้องน้ำ ถังขยะ สถานที่ไม่เป็นมงคล อยู่ด้านหลังก็ไม่ควร หรือปล่อยให้ฝุ่นเกาะ สกปรก รกรุงรังเป็นอันขาด เพราะจะส่งผลให้เกิดพลังด้านลบ ทำให้เราเจ็บป่วย ขาดอำนาจบารมี เพราะว่าบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็นบุคคลที่เราควรระลึกถึง ยิ่งหากท่านเป็นผู้มีพระคุณด้วยแล้ว การกราบไหว้บูชา หรือน้อมนำบุญกุศล ส่งไปถึงท่านบ่อยๆ เป็นสิ่งที่ชาวพุทธอย่างเราควรกระทำเป็นอย่างยิ่งห้ามอยู่ใต้บันได ใต้คาน ห้องเด็กเล็กๆ หรือห้องที่มีความวุ่นวาย เด็ดขาด !! ทำให้ครอบครัววุ่นวาย ยุ่งเหยิง มีเรื่องให้จัดการแทบทุกวัน

4. รูปบรรพบุรุษ รูปคนตาย ไม่ควรแขวนหรือตั้งไว้ สูงกว่าพระพุทธเจ้า หากที่บ้านมีรูปเทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือพระพุทธรูป เราไม่ควรแขวนรูปบรรพบุรุษ หรือนำอัฐิของท่านวางไว้สูงกว่าอย่างเด็ดขาด ด้วยความที่ท่านมีบุญบารมีสูงกว่าบรรพบุรุษของเรา การไว้ตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องนี้จะส่งผลให้ลูกหลานบริวารดื้อ สร้างปัญหาให้กับครอบครัวอยู่เสมอ

5. เปิดประตูบ้านไม่ควรเจอภาพบรรพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นประตูบ้าน ประตูห้องนอน ประตูห้องรับแขก ประตูครัว ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากๆ ตำแหน่งมังกร สะท้อนความมั่งมีศรีสุข ด้านการเงิน สุขภาพ และอะไรอีกมากมาย เมื่อเปิดประตูดังกล่าวแล้ว ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับประตู ถือเป็นผนังแห่งความมั่นคง หากมีรูปบรรพบุรุษ จะส่งผลให้ครอบครัวนี้มีแต่เรื่องผิดหวัง หน้าที่การงานตกต่ำ เนื่องจากเป็นตำแหน่งประธานของบ้าน ควรเป็นภาพวิวสวยๆ ภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใหญ่ที่เราเคารพ หรือเป็นบูรพมหากษัตริย์จะดีกว่า

6. กรณีมีกระถางธูปไหว้บูชา ควรตั้งอยู่ในห้องที่เงียบสงบ ชาวจีนเชื่อว่า หากวิญญาณบรรพบุรุษได้อยู่อย่างสงบสุข พักผ่อน จะทำให้ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุขเช่นกัน ดังนั้นควรตั้งรูปบรรพบุรุษ หรืออัฐิไว้ในที่เงียบสงบ อากาศถ่ายเท อาจจะเป็นห้องพระ ห้องเตรียมอาหาร ห้องรับประทานอาหาร ระหว่างทางเดินไปหลังบ้าน ชั้นสองระหว่างทางไปห้องพระ เพื่อให้บรรพบุรุษ ได้เห็นลูกหลานมีความสุข มีเสียงหัวเราะ อยู่ดีกินดี

7. กรณีไว้ในห้องพระ ไม่ควรไว้หิ้งเดียวกับพระ เทพ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์อื่นๆ ควรทำหิ้ง หรือโต๊ะวางแยกไว้ต่างหาก

8. ทิศที่ควรไว้ ควรไว้ในทิศที่ไม่ชงกับปีเกิดของบรรพบุรุษ และไม่ชงกับปีเกิดของผู้อาศัย และไม่อยู่ในทิศที่ไม่ดีของแต่ละปี ส่วนมากนิยมหันไปทางทิศเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออก

9. ของไหว้บรรพบุรุษ ชาวจีนเชื่อว่า การกราบไหว้ด้วยอาหาร ผลไม้ และของไหว้ดีๆ จะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ ของคนในครอบครัว เราสามารถใช้ของไหว้เหมือนไหว้ตรุษสารททั่วไป เช่นอาหารคาวหวาน ผลไม้ น้ำชา น้ำผลไม้ หรือถ้าเรารู้ว่าท่านชอบอะไรก็จัดสิ่งนั้นถวายได้

ส่วนใครอ่านแล้วก็ตรวจสอบดูว่าปัจจุบันเราไว้ภาพบรรพบุรุษตำแหน่งใด ถ้าหากไว้แล้วไม่ดี ก็ลองปรับเปลี่ยนดูบ้าง เชื่อว่าไม่ได้ยากลำบากเกินที่จะทำ หลายท่านปรับเปลี่ยนตามอาจารย์แล้วชีวิตดีขึ้นจริง บางท่านมีบรรพบุรุษมาเข้าฝันยิ้มให้ดีใจตั้งแต่คืนแรกที่จัดใหม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเราตั้งภาพบรรพบุรุษแล้ว ก็ควรหมั่นบูชา กราบไหว้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณเหล่าบรรพชน เมื่อกราบทุกครั้ง ให้ระลึกถึงความดีที่ท่านได้สร้างไว้ ระลึกถึงบุญคุณที่ท่านทำให้มีเราในทุกวันนี้ บุคคลใดมีความกตัญญู ย่อมตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ อย่างแน่นอน

ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ฝากแชร์บอกต่อด้วยนะคะ มาช่วยกันส่งต่อความปรารถนาดีจากอาจารย์ให้ทั่วโลกได้รับพลังดีๆไปด้วยกันค่ะ

ด้วยรักและเป็นกำลังใจให้เสมอ อาจารย์เมย์ ซินแสฮวงจุ้ยแก้ดวง

5 เคล็ดลับ ขอพรให้สำเร็จ พร้อมวิธีขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกต้อง

การไหว้พระหรือบูชาสิ่งศักดิ์เพื่อขอพรให้สมปรารถนาในเรื่องต่างๆ เป็นหนึ่งในสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยหลายคนและยังเป็นความเชื่อที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นในเวลาที่ต้องการความมั่นใจเรื่องอะไรก็ตาม แต่วิธีขอพรที่ถูกต้องนั้นควรทำอย่างไร

1. ตั้งจิตให้สงบและมีสมาธิ

ก่อนที่เราจะสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใดก็ตาม อย่างแรกที่ต้องทำก็คือการสงบจิตสงบใจและตั้งจิตให้มีสมาธิ เต็มไปด้วยแรงเชื่อมั่นและความศรัทธา การที่เรามีสมาธิ จิตนิ่ง จะทำให้ความคิดและจิตใจสงบ บริสุทธิ์ พร้อมรับพลังงานที่ดีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายค่ะ

1. ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์

ก่อนไหว้พระขอพรหรือก่อนไปเยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ควรชำระล้างร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ สวมเสื้อผ้าที่สะอาดและสุภาพ เหมาะสมกับกาลเทศะ ไปจนถึงการตั้งตนอยู่ในศีล ทาน ภาวนา เพื่อสำรวมกาย วาจา ใจ สิ่งเหล่านี้ก็นับเป็นการทำกายใจให้บริสุทธิ์เช่นกันค่ะ

1. รู้จักวิธีการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกต้อง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์ แต่ละท่าน ก็มีพิธีกรรมหรือวิธีขอพรที่แตกต่างกันออกไป เราจึงต้องรู้ก่อนว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรากำลังสักการะนั้นมีขั้นตอนการไหว้หรือต้องเตรียมสิ่งของอย่างไรบ้าง เช่น

1. ท้าวมหาพรหมเอราวัณ ต้องจุดธูป 12 ดอกและไหว้ให้ครบทั้ง 4 หน้า มีชื่อเสียงด้านการค้า ธุรกิจ และความสำเร็จด้านการงาน

2. พระตรีมูรติ ต้องไหว้ด้วยเทียนแดง 1 เล่ม ธูปแดง 9 ดอก ในช่วง 09.30 – 21.30 น. มีชื่อเสียงด้านการขอพรให้ความรักสมหวัง

3. ศาลพระพิฆเนศ ห้วยขวาง ใช้ธูปกี่ดอกก็ได้ตามสะดวก ดอกไม้สด น้ำสะอาด นมสด ขนมหวานและผลไม้ในการไหว้ มีชื่อเสียงด้านขอให้การงานและการเรียนราบรื่น ประสบความสำเร็จ

4. พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ต้องใช้ธูป 16 ดอก มาลัยดอกดาวเรือง หรือมาลัยดอกมะลิและดาวเรือง มีชื่อเสียงด้านการขอพรให้พบความสุขความสำเร็จ แคล้าวคลาดปลอดภัย

ส่วนการไหว้พระพุทธรูปทั่วไปนั้นใช้ธูป 3 ดอกและเทียน 1 คู่ แต่หากไม่มีดอกไม้หรือเครื่องไหว้ก็ใช้มือพนมและตั้งจิตต่างดอกไม้ธูปเทียนได้เช่นกันค่ะ ส่วนการไปไหว้สักการะบางแห่ง เช่น วัดในชุมชน วัดดังในไทย หรือสถานที่ขอพรความรักให้สมหวัง อาจกำหนดวิธีขอพรหรือวิธีไหว้โดยเฉพาะเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนธูปเทียนและคำสวดบูชา ก็ให้เราปฏิบัติตามนั้น

1. ขอพรในสิ่งที่ดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

หากต้องการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล เรื่องที่เราจะขอพรต้องเป็นสิ่งที่ดี เกิดจากกุศลกรรมดี ไม่เป็นการขอที่เบียดเบียนผู้อื่นหรือเป็นการสาปแช่ง เช่น อาจจะขอให้ตนเองและครอบครัวพบแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง ทำการงานสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ แต่หลังจากทำตามวิธีขอพรแล้ว ก็ต้องหมั่นสร้างกรรมดี ขยันหมั่นเพียร และดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท รวมถึงตั้งใจมั่นทำตามเป้าหมายชีวิตของเราด้วยตัวเองด้วย

1. อธิษฐานเผื่อแผ่ แบ่งปันส่วนบุญและกุศล

แรงอธิษฐานที่บริสุทธิ์ไม่ใช่การทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เมื่อเราได้ความสบายใจ ได้พลังที่ดีจากวิธีขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็ควรแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นด้วยนะคะ เช่น การอธิษฐานเผื่อแผ่ให้แก่คนรอบข้าง การทำบุญ ทำทาน ตามหลักพุทธสิ่งเหล่านี้เรียกว่า พรหมวิหารธรรม หรือ เมตตา ซึ่งการปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขก็จะทำให้เราสุขใจและได้พบความสุขจากการให้อย่างแท้จริงได้แบบทันตาเห็นค่ะ

การบนบานคืออะไร

การขอพรคือการที่เราไปไหว้ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพร ขอบุญบารมี เป็นการบอกกล่าวขอโมทนาคุณความดีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกป้องคุ้มครองและอวยพรให้เราสำเร็จตามความตั้งใจ ไม่ใช่การบอกกล่าวขอให้สำเร็จแล้วนำสิ่งของไปถวาย แต่จะใช้เพียงอามิสบูชาตามหลักศาสนา เช่น ธูป เทียน ดอกไม้ ในการไหว้ เป็นต้น

ขณะที่การบนบานคือการเอาสิ่งของ เครื่องคาว เครื่องหวานหรือการแสดงมหรสพต่างๆ ไปติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า หากเราสำเร็จตามที่ตั้งใจจะมาถวายข้าวของเครื่องใช้หรือถวายการแสดงตามที่ได้บนเอาไว้ ซึ่งตามความเชื่อแล้วไม่เป็นการดีต่อตัวเราเองเลยค่ะ เพราะฉะนั้นหากเราไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเป็นพระ อริยสงฆ์ ซึ่งละกิเลสแล้วนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น เจ้าที่เจ้าทางที่ปกป้องคุ้มครองบ้านเรือน บรรพบุรุษ หรือบุคคลสำคัญที่ท่านเคยสร้างคุณงามความดีจนเป็นที่เคารพสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้อาจยังต้องการเครื่องเซ่นไหว้อยู่ ดังนั้นการถวายเครื่องเซ่นไหว้เมื่อสมความปรารถนาจึงสามารถทำได้ตามความเหมาะสม

อย่าลืมนะคะว่าการวิธีขอพรควรเป็นการกระทำด้วยกายและใจที่บริสุทธิ์ โดยเฉพาะถ้าเป็นการไหว้สักการะพระอริยบุคคล พระพุทธรูป สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ไม่ควรนำเครื่องเซ่นไปถวาย ยกเว้นสิ่งของอามิสบูชาอย่างธูป เทียน ดอกไม้ รวมถึงใจอันบริสุทธิ์ ขอพรอย่างมีสติ รวมถึงหมั่นสร้างกรรมดีด้วยตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ พลังบุญเหล่านั้นก็จะส่งเสริมให้เราประสบแต่สิ่งที่ดีและสามารถประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ค่ะ

ได้รู้จักวิธีขอพรที่ถูกต้องและแนวทางขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผลและได้ความสบายใจกันไปแล้ว อย่าลืมกันหล่ะว่านอกจากหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เราเองก็ต้องลงมือทำชีวิตให้ดีขึ้นด้วยตัวเองนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานด้วยความขยัน การคิดดี พูดดี ทำดี และมีน้ำใจกับผู้อื่น เมื่อเราเริ่มต้นทำดีแล้ว

1. วิธีเสริมดวงรับทรัพย์

2. เสาไฟหน้าบ้าน อย่ามองข้าม

3. กระเป๋าดูดทรัพย์ รีวิวกระเป๋าสตางค์เรียกทรัพย์ อาจารย์เมย์

4. สื่อเรียนรู้ฮวงจุ้ย

ขอขอบคุณ : tnews.co.th, th.wikipedia.org, shopback

#ตงรปบรรพบรษ #ถกฮวงจย #อาจารยเมย